เกาะกระใหญ่ เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะกระ ด้านบนเกาะจะเป็นยอดเขาสูงชันมีต้นไม้ขึ้นปกคลุม ลักษณะสัณฐานของตัวเกาะด้านทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ชายขอบเกาะจะเป็นผาหินชันทอดตัวลงสู่แนวลึก เนื่องจากเกาะกระเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งเป็นระยะทางไกล จึงไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ ที่จะปกป้องตัวเกาะจากลมมรสุม จึงเป็นด้านที่ได้รับอิทธิพลของคลื่นลมในช่วงฤดูมรสุมอย่างเต็มที่ ทั้งช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยจะมีร่องน้ำลึกขนาบตัวเกาะทั้งทางด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ทางด้านทิศใต้ของเกาะเป็นบริเวณเดียวที่มีหาดทราย ซึ่งมีความยาวประมาณ 150 เมตร ทรายของหาดเกิดจากการผุพังของซากปะการังด้านหน้าหาดที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมา โดยความชันของหาดทรายจะขึ้นกับช่วงเวลาแต่ละฤดูกาล ถัดจากหาดทรายไปทางตะวันออกเป็นหาดหินที่มีความยาวประมาณ 300 เมตร ชายฝั่งด้านทิศใต้ของเกาะกระใหญ่นี้ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมทั้งสองช่วงเวลาค่อนข้างน้อย จึงมีแนวปะการังเจริญเติบโตอยู่อย่างหนาแน่นบนพื้นทรายตั้งแต่ริมฝั่งไปจนถึงที่ระดับลึกมากกว่า 30 เมตร
ปัจจุบันหมู่เกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ที่มีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ ควรสงวนไว้เพื่อเป็นแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในอ่าวไทย โดยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่สำคัญประกอบด้วย แนวปะการังพื้นที่ 412 ไร่ มีปะการังแข็ง 67 ชนิด ปะการังที่สำคัญ เช่น ปะการังเขากวาง ชนิดปะการังแปรงล้างขวด Acropora longicyathus (Milne Edwards & Haime, 1860) ซึ่งพบแห่งเดียว ในบริเวณอ่าวไทย
เกาะกระเป็นแหล่งวางไข่ที่สำคัญของเต่าทะเล โดยปัจจุบันพบปีละมากกว่า 30 รัง และยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์สัตว์ที่หายากและอยู่ในสภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง เช่น เต่ากระ Eretmochelys imbricata (Linnaeus, 1766) หอยทากบุษราคัม Amphidromus principalis (Sutcharit & Panha, 2015) และนกโจรสลัดเกาะคริสต์มาส Fregata andrewsi (Mathews, 1914) เป็นต้น ชนิดพันธุ์ที่อยู่ในสถานภาพมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกยางจีน Egretta eulophotes (Swinhoe, 1860)
นอกจากนี้ เกาะกระยังมีความสำคัญต่อการกำหนดขอบเขตพื้นที่ทะเลของราชอาณาจักรไทย โดยได้ประกาศให้เป็นพิกัดที่ใช้กำหนด เป็นเส้นฐานตรงหลักที่ 3 ทางฝั่งอ่าวไทย การประกาศเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและชายฝั่งนั้นมีส่วนสำคัญในการดูแลอาณาเขตของราชอาณาจักรไทยด้านความมั่นคงอีกด้วย
ถึงแม้ว่าหมู่เกาะกระ เป็นเกาะขนาดเล็กที่อยู่ห่างจากชายฝั่งอำเภอปากพนัง 53 กิโลเมตร และไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ แต่สภาพธรรมชาติมีความเปราะบางและเสี่ยงต่อการถูกทำลายได้ง่าย และปัจจุบัน เริ่มมีภัยคุกคามจากการประมงและการท่องเที่ยว ทำให้มีแนวโน้มที่สภาพธรรมชาติเสื่อมโทรมลง จึงมีความจำเป็นต้องมีมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อสงวนไว้ซึ่งสภาพธรรมชาติเดิม ให้เป็นแหล่งพันธุ์ของปะการังและสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ในฝั่งอ่าวไทย และส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน